เลือกโคมไฟแต่งบ้านเอง ไม่ยาก ตอนที่ 2 สีของแสงนั้นก็สำคัญ
สีของแสงในบ้านนั้น ในภาษาเทคนิคเราเรียกกันว่าอุณหภูมิแสง มีหน่วยเป็น K (เคลวิน) ไม่เหมือนกับอุณหภูมิความร้อนนะครับ เพราะว่าค่าอุณหภูมิแสง ยิ่งตัวเลขน้อยๆ แสงจะไปในทางอบอุ่นขึ้น (~2700k – Warmwhite ) และ แสงจะเย็นขึ้นเมื่อค่า K มากขึ้น (~6000k – DayLight)
ห้องที่เน้นบรรยากาศเช่น ห้องอาหาร เราควรเลือกแสงไปในทางอุ่น เช่น warm white (2700k) ซึ่งจะสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สบาย ยิ่งถ้าปิดไฟที่สว่างโดยรวมแล้วเปิดไฟเฉพาะจุดทานข้าวเพียงจุดเดียวละก็ โรแมนติกเลอค่าเป็นที่สุด สังเกตุจากภัตตาคาร ที่เรามักชวนสาวๆไปดินเนอร์ ล้วนใช้แสงอบอุ่นเป็นหลัก บางที่จุดเทียนกันเลยทีเดียว(2000k) ห้องที่เรานิยมใช้แสงแบบนี้ก็ยังมี ห้องนอน ,ห้องอาบน้ำแบบมีอ่างอาบน้ำ
เพราะถ้าเป็นแบบ shower เราจะไม่ค่อยได้ใช้เวลาดื่มด่ำกับความสุขในห้องน้ำเท่าไร ก็จะนิยมเป็นแสง Natural Light (5000k) มากกว่าเวลาส่องกระจกจะได้เห็นหน้าตัวเองจริงๆ ~.~ (ตามร้านเสริมสวย ต่างๆจึงไม่ค่อยใช้แสงขาวไง).
ห้องทำงาน หรือออฟฟิตแบบต้องบิ้วอารมณ์การทำงานหน่อยๆ เราต้องอ่านหนังสือ หรือทำงานที่ต้องใช้สายตามาก แสงที่เหมาะสมจึงควรเป็นแสงใกล้เคียงธรรมชาติ แต่ต้องไม่แข็งจนเกินไป แสงที่อุณหภูมิ Natural (3500k) จะเปรียบเหมือนแสงสว่างในตอนเช้า หรือแสงยามเย็น เราจะทำงานได้นานขึ้น ตาไม่ล้าเร็ว ใครทำโฮมออฟฟิตก็เลือกแสงนี้นะครับ
แต่ถ้าเกิดเราทำงานแบบเน้นโทนสีให้ไม่ผิดเพี้ยน หรือต้องการบรรยากาศแบบขาว สะอาดตา สดชื่น เช่น อาคารสำนักงาน ,โรงพยาบาล ล่ะก็ แนะนำแสงนี้เลยครับ DayLight ( 6000k-6500k) แสงประเภทนี้จะใกล้เคียงกับแสงอาทิตย์ในเวลากลางวัน ที่กำลังวัตต์เท่ากัน แสงนี้แต่จะใช้ความสว่างที่สูงกว่าอุณหภูมิแสงอื่นๆ
มาถึงตอนนี้ถ้าเรารู้จักประเภทของแสงไฟ และสีของแสงที่จะใช้แล้ว ก็ถือว่าผ่านไป50%และ เดี๋ยวตอนหน้าก่อนที่จะเล่าเรื่องของแบบของโคมไฟ และการเลือกใช้ ผมขอเล่าเรื่องประวัติของหลอดไฟก่อนแล้วกันครับ
ตามอ่านตอนที่ 1 ประเภทของแสงไฟในบ้านได้ที่นี่
ต้องการเพิ่มเติม ติชม หรืออยากรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการใช้โคมไฟแต่งบ้าน เม้นถามมาได้ด้านล่างคับ